ป.ป.ส. เตรียมส่ง ยาเค 11.5 ตัน ตรวจใหม่ หลังพบ ‘ไตรโซเดียมฟอสเฟต’

ป.ป.ส. เตรียมส่ง ยาเค 11.5 ตัน ตรวจใหม่ หลังพบ ‘ไตรโซเดียมฟอสเฟต’

ป.ป.ส. เตรียมส่ง ยาเค 11.5 ตัน ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำไปตรวจในห้องแล็บอีกครั้ง หลังพบ ไตรโซเดียมฟอสเฟต สารที่ใส่ในนมปะปนอยู่ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส) เชิญสื่อมวลชน เข้าตรวจดู ยาเค 11.5 ตัน ที่ยึดมาจากโกดังร้างแถวบางปะกงถึงห้องเก็บของกลาง เพื่อยืนยันว่าของกลางยังอยู่ครับ พร้อมทั้งเปิดเผยเพิ่มเติมว่าจะส่งให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำไปตรวจในห้องแล็บอีกครั้ง หลังพบ ไตรโซเดียมฟอสเฟต สารที่ใส่ในนมปะปนอยู่

เมื่อวันที่ 12 พ.ย. ที่ผ่านมา เกิดเป็นข่าวใหญ่ในเมืองไทย 

หลังจาก ป.ป.ส. แถลงการตรวจยึดยาเค ล็อตใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เตรียมส่งออกต่างประเทศ อยู่ใน 457 กระสอบ น้ำหนักรวมถึง 11.5 ตัน มูลค่ารวมกว่า 38,750,000,000 บาท โดยผลการสืบทราบครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือจากโครงการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด ณ พื้นที่ท่าอากาศยาน และโครงการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด ณ พื้นที่ท่าเรือสากล  ที่ตรวจยึดได้ก่อนหน้านี้จำนวน 300 กิโลกรัม ที่ต่างประเทศ ก่อนสืบสวนแล้วรู้ว่ายาเคล็อตนี้ส่งตรงมาจากไทย

ล่าสุดวานนี้ (22 พ.ย.) ป.ป.ส. ร่วมกับสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญา-กรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC), สถาบันวิชาการและตรวจพิสูจน์ยาเสพติด และส่วนสกัดกั้นยาเสพติดท่าอากาศยานและท่าเรือ แถลงข่าวหลังจากตรวจทั้ง 457 กระสอบ ด้วยน้ำยาพิสูจน์สารเสพติด ผลออกมาเป็นสีม่วง จึงคาดว่าของที่อยู่ในกระสอบคือเคตามี แต่หลังจากนำสารตัวอย่าง กลับมาตรวจในห้องแล็บ กลับพบเป็นสาร ไตรโซเดียมฟอสเฟต แทน ซึ่งมีคุณสมบัติทำให้นมไม่ตกตะกอน และไม่ใช่ยาเสพติด ประชาชนทั่วไปสามารถครอบครองได้

ด้วยเหตุนี้ ป.ป.ส. จะประสานไปยัง พิสูจน์หลักฐาน กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และ UNODC ให้ตรวจสอบสารที่เหลือทั้งหมด เพราะอาจมีเคตามีนปะปนอยู่ด้วย พร้อมทั้งเน้นย้ำถึงข่าวลือที่ว่ามีขาใหญ่เกี่ยวข้องกับยาเคล็อตนี้ ป.ป.ส ยืนยันว่าจากการตรวจสอบยังไม่พบผู้มีอิทธิพลรายไหนมีส่วนพัวพัน แต่ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ๆ ก็พร้อมดำเนินคดีถึงที่สุด

ปคบ. บุกจับ 3 สาว หลอกขายหน้ากากอนามัย และเฟซชิลด์ ทาง Facebook และเว็บไซต์ ให้ชาวอิตาลี ก่อนเชิดเงิน 4 แสน หลบหนี 

หลอกขายหน้ากากอนามัย – กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค แถลงจับกุม น.ส.วราพร หรือพลอยภัทร์ชา ดอนชัย อายุ 30 ปี, น.ส.วรินดา วงษ์กันหา อายุ 25 ปี และน.ส.วันวิสา ภูนางาม อายุ 28 ปี ข้อหากระทำความผิดฐาน  ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ที่บิดเบือน หรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน   ร่วมกันและสมคบกันฟอกเงิน

จุดเริ่มต้นเริ่มมาจาก นายอันโตนิโอ ดิ จอยญ่า ชายชาวอิตาลี ได้ติดต่อขอซื้อหน้ากากอนามัย 10,000 ชิ้น และเฟซชิลด์ 1,000 ชิ้น ราคารวม  421,265.70 บาท จากน.ส.วรินดา และพรรคพวก ผ่านทาง Facebook และเว็บไซต์ https://warindawongkanhaco ทว่าหลังจากโอนเงินเรียบร้อย กลับไม่ได้สินค้า และติดต่อไม่ได้อีกเลย

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงติดตามเส้นทางการเงิน และพบว่าหญิงผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ถ่ายเงินผ่านบัญชีกันไปมา ก่อนจะโอนต่อให้ Mr.Yannicik Junior Chefor Ndonggapen ชายชาวแคเมอรูน ที่ถูกคุมตัวอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ก่อนหน้านี้

ซึ่งขณะนี้เหลือผู้ต้องหาอีก 1 ราย ที่ได้หลบหนีออกไปนอกประเทศแล้ว คือ  Mr.Nyongbamia Bochuke Wilson และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็กำลังขอออกหมายจับ เพื่อจะติดต่อประสานงานกับ INTERPOL ต่อไป

นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ เจ้าของเพจ ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม โพสต์ท้าผู้เกี่ยวข้องให้มาดีเบตผ่านทีวี เพราะตนเองมั่นใจว่า ยาเค 11 ตัน ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส) ตรวจยึดได้นั้น เป็นของนักการเมือง และการที่เจ้าหน้าที่ไม่ขยายผลต่อ เพราะกลัวว่าจะโดนให้ออกจากราชการ

สืบเนื่องมาจาก เมื่อสัปดาห์ก่อน ป.ป.ส. แถลงการตรวจยึดยาเค ล็อตใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เตรียมส่งออกต่างประเทศ อยู่ใน 457 กระสอบ น้ำหนักรวมถึง 11.5 ตัน มูลค่ารวมกว่า 38,750,000,000 บาท

หลังจากได้รับความร่วมมือจากโครงการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด ณ พื้นที่ท่าอากาศยาน และโครงการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด ณ พื้นที่ท่าเรือสากล  ที่ตรวจยึดได้ก่อนหน้านี้จำนวน 300 กิโลกรัม ที่ต่างประเทศ แล้วสืบสวนจนรู้ว่ายาเคล็อตนี้ส่งตรงมาจากไทย

ซึ่งหลังจากขยายผลเพิ่มเติม เจ้าหน้าที่พบว่าผู้ต้องหาเป็นชนกลุ่มน้อยที่ได้สัญชาติไทย มีภูมิลำเนาอยู่ในชายแดนภาคเหนือ ซึ่งขณะนี้กำลังหลบหนีอยู่ในประเทศไทย โดยเจ้าของผู้ให้เช่าโกดังก็เข้าแสดงตัวและให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่เรียบร้อยแล้วว่าไม่มีส่วนรู้เห็นใด ๆ ทั้งสิ้น พร้อมทั้งให้ตรวจสอบทุกกรณี

แนะนำ : รีวิวหนังไทย | คู่มือพ่อแม่มือใหม่ | แม่และเด็ก | เรื่องผี | แคคตัส กระบองเพชร